– บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก/ยูโรเปี้ยน คัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 6 ต่อจากปี 19734, 1975, 1976, 2001 และ 2013 จากการเข้าชิงชนะเลิศทั้งหมด 11 ครั้ง

–  แชมป์ 6 สมัยของ บาเยิร์น เป็นสถิติเท่ากับ ลิเวอร์พูล และเป็น เรอัล มาดริด (13 สมัย) และ เอซี มิลาน (8 สมัย) เพียง 2 ทีมเท่านั้น 

– บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ด้วยการชนะรวดทุกนัดที่ลงเล่น รวม 11 นัด

– บาเยิร์น มิวนิค ยิงรวม 159 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาลนี้ และชนะรวดตลอด 21 นัดหลังสุดและไม่แพ้ 30 นัดหลังสุดในทุกรายการ 

– บาเยิร์น มิวนิค คว้าเทรเบิ้ลแชมป์ได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสรต่อจากปี 2013

– บาเยิร์น มิวนิค ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 500 ประตูพอดี มีเพียง เรอัล มาดริด 567 ประตู และ บาร์เซโลน่า 517 ประตูที่ยิงได้มากกว่า 

– โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้า บาเยิร์น มิวนิค คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ที่จำนวน 15 ประตู และเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีหลังสุดที่ดาวซัลโวไม่ใช่ ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

– โธมัส มุลเลอร์ เป็นนักเตะเยอรมันที่ได้ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ครั้งในปี 2010, 2012, 2013 และ 2020 มากสุดเท่ากับ โทนี่ โครส  

– คิงส์เล่ย์ โกมัน เป็นนักเตะฝรั่งเศสคนที่ 5 ที่ยิงได้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศต่อจาก มาซิเล่ โบลี่ (1993), มาร์แซล เดอไซญี่ (1994), ซีเนดีน ซีดาน (2002) และ คาริม เบนเซม่า (2018)

– โกมัน ได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในวัย 24 ปี 71 วัน อายุน้อยสุดอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา รองจาก ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้ตอนอายุ 23 ปี  

– 7 ทีมหลังสุดที่เข้าชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปใบใหญ่เป็นครั้งแรก ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ทั้งหมด โดยทีมสุดท้ายที่เข้าชิงฯ ครั้งแรกและได้แชมป์คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ชนะ ยูเวนตุส ในปี 1997

อ่านข่าวเพิ่มเติม : https://www.claire-macdonald.com

เครดิตโดย : ufabet123